(https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2022/05/S__4145184.jpg)
'ว่ายน้ำไทย' ปลื้มผลงานซีเกมส์ ทะลุเป้า 4 ทอง ต่อยอดความสำเร็จสู่โอลิมปิก 2024
พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสำหรับความสำเร็จของนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยว่า รู้สึกภาคภูมิใจกับนักกีฬาทั้ง 21 คน ที่ฟันฝ่าอุปสรรค ตั้งใจมุมานะฝึกซ้อมอย่างหนัก ตลอดระยะเวลาในการเก็บตัว ส่งผลให้คว้ามาได้ถึง 4 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน และอีก 9 เหรียญทองแดง นับเป็นผลงานทีมยอดเยี่ยมจริงๆ มีเพียงนักกีฬา 6 คนเท่านั้น ที่ไม่สามารถคว้าเหรียญมาคล้องคอได้ แต่สถิติเวลาส่วนตัวถือว่าดีขึ้นมาก เห็นได้ถึงพัฒนาการของแต่ละคน
"ส่วน 4 เหรียญทอง ที่ได้จากสิบโทหญิง เจนจิรา ศรีสอาด ที่ทำคนเดียว 2 เหรียญทอง จากท่าผีเสื้อและฟรีสไตล์ 50 เมตร ต้องยอมรับว่าการได้ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่เนเธอแลนด์ ทำให้เจ้าตัวมีความมั่นใจ จนพัฒนาขีดความสามารถไปได้ไกลกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ขณะที่เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก การกลับมาคว้าเหรียญทองอีกครั้งในซีเกมส์ครั้งนี้ ในท่ากบ 200 เมตร ที่เคยเป็นแชมป์ในซีเกมส์ 2017 ถือว่าจิตใจแข็งแกร่งที่ต่อสู้กับอาการบาดเจ็บ รวมถึงดาวรุ่งอย่างกมนชนก ขวัญเมือง ที่คว้าเหรียญทองมาได้แบบเซอร์ไพรส์จากผลัดผสม 400 เมตร นับเป็นนักกีฬาที่ว่ายน้ำในระยะกลางและไกลได้ดี คาดว่าจะเป็นกำลังสำคัญในทีมว่ายน้ำไทยในอนาคต"
พล.อ.ศิริชัยกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังนักว่ายน้ำของไทยยังสามารถทำลายสถิติประเทศไทยได้ถึง 10 รายการ ผ่านเกณฑ์ B ของฟีน่าได้ไปแข่งชิงเเชมป์โลก เพิ่มอีก 4 คน ซึ่งทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ ได้กล่าวชื่นชมผลงานของนักกีฬาและผู้ฝึกสอนทุกคน โดยท่านได้เดินทางไปให้กำลังใจถึงขอบสระ พร้อมจะช่วยผลักดันนักกีฬาหลังสร้างผลงานยอดเยี่ยมในรอบ 9 ปี สำหรับรายการต่อไปคือการแข่งขัน "ฟีน่าเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ 2022" ที่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ในเดือนมิถุนายน ขณะที่เยาวชนจะลงแข่งในรายการ "ฟีน่าเวิลด์จูเนียร์" ที่ประเทศเปรู ในช่วงเดือนสิงหาคม หวังว่าจะเป็นการต่อยอดความสำเร็จให้กับทุกคน เป้าหมายคือโอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศส
ด้าน พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ เลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ กล่าวว่า ซีเกมส์ครั้งนี้นักกีฬาของเราถือว่ามีความพร้อม และได้ฝึกซ้อมตามแผนที่สมาคมวางไว้ได้อย่างครบถ้วน ประกอบกับนักกีฬาทุกคนนั้นมีความกระหาย โดยเฉพาะนักกีฬาตัวความหวังและดาวรุ่ง ทำให้ผลงานนั้นออกมาดีแบบเหลือเชื่อ จนหลายชาติได้กล่าวชมว่านักกีฬาว่ายน้ำของไทยมีโอกาสขึ้นมาเทียบเคียงสิงคโปร์ได้ภายใน 3 ปี หลังจากนี้ ซึ่งสิงคโปร์นั้นครองความยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนาน