(https://img.pptvhd36.com/thumbor/2022/05/27/news-6f49c69015.jpg)
เรอัล มาดริด มีสถิติอันยอดเยี่ยมในการลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ ถ้วยใบใหญ่ของยุโรป หลังยังไม่เคยแพ้ใครตลอด 7 นัด ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมาเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาล 1992/93 ขณะที่ ลิเวอร์พูล แพ้ไปแล้ว 2 ครั้ง จากการเข้าชิง 4 ครั้ง
เหลืออีกเพียง 1 วันศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด อดีตแชมป์ 13 สมัย กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อดีตแชมป์ 6 สมัยก็จะมีขึ้นที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
โดยบรรดาสื่อในสเปน ต่างแสดงความเชื่อมั่นว่า ทัพ "ราชันชุดขาว" จะสามารถย้ำแค้น ลิเวอร์พูล ได้อีกครั้ง หลังเคยเอาชนะมาได้แล้วในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อปี 2018 ด้วยสกอร์ 3-1
(https://img.pptvhd36.com/thumbor/2022/05/27/6ea39b5c97.jpg)
นอกจากนี้ยังได้ยกสถิติอันยอดเยี่ยมของ เรอัล มาดริด มาข่มขวัญแฟนบอล "หงส์แดง" ด้วย คือ เรอัล มาดริด เข้าชิงชนะเลิศถ้วยใบนี้มาแล้ว 7 ครั้ง ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมาเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 1992/93 โดยไม่เคยแพ้ใคร ชนะรวดทั้ง 7 นัด แถมยังยิงประตูคู่แข่งได้ถึง 18 ประตู เสียไปแค่ 5 ประตูเท่านั้น ไล่ตั้งแต่
สถิตินัดชิงชนะเลิศของ เรอัล มาดริด ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
1997-98 : ชนะ ยูเวนตุส 1-0
1999-00 : ชนะ บาเลนเซีย 3-0
2001-02 : ชนะ เลเวอร์คูเซ่น 2-1
2013-14 : ชนะต่อเวลา แอตเลติโก มาดริด 4-1
2015-16 : ชนะจุดโทษ แอตเลติโก มาดริด 5-3
2016-17 : ชนะ ยูเวนตุส 4-1
2017-18 : เรอัล มาดริด 3-1 ลิเวอร์พูล
ขณะที่ ลิเวอร์พูล เข้าชิงไปทั้งหมด 4 ครั้ง ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมาเป็นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยแพ้ไปถึง 2 ครั้ง และชนะ 2 ครั้ง ยิงได้ 7 เสีย 8 ประตู
นอกจากนี้ยังมีการหยิบยกสถิติการมีนักเตะโครเอเชียอยู่ในทีมจะคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มานำเสนออีกด้วย เพราะตั้งแต่ฤดูกาล 2012/13 เป็นต้นมา สโมสรที่เป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จะมีนักเตะโครเอเชียร่วมทีมอย่างน้อย 1 คน โดยในรอบชิงชนะเลิศปีนี้ มาดริด มี ลูก้า โมดริช เป็นคนโครเอเชีย ส่วน ลิเวอร์พูล ไม่มีนักเตะที่มีสัญชาติโครเอเชียอยู่ในทีมเลย ส่วนทีมแชมป์ก่อนหน้านี้
ทีมที่มีนักเตะโครเอเชียแล้วเป็นแชมป์ UCL
2012/13มาริโอ มานด์ซูคิช (บาเยิร์น)
2013/14 ลูก้า โมดริช (เรอัล มาดริด)
2014/15 อีวาน ราคิติช (บาร์เซโลน่า)
2015-2018 ลูก้า โมดริช – มัตเตโอ โควาซิช (เรอัล มาดริด)
2018/2019เดยัน ลอฟเรน (ลิเวอร์พูล)
2019/20อีวาน เปริซิช (บาเยิร์น มิวนิค)
2020/21มัตเตโอ โควาซิช (เชลซี)