(https://cms.dmpcdn.com/sportarticle/2022/04/12/37e006c0-b9c4-11ec-9b79-89296ec28455_original.jpg)
รายการ : ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2021/22 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง
แมตช์การแข่งขัน : เรอัล มาดริด VS เชลซี
วัน/เวลาแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 12 เมษายน 2565 เวลา 02.00 น.
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
ถ่ายทอดสด : beIN Sports 1
ผลนัดแรก : เชลซี 1-3 เรอัล มาดริด
สภาพความพร้อม เรอัล มาดริด
(https://cms.dmpcdn.com/sportarticle/2022/04/07/498ee4d0-b5f1-11ec-814c-610fbbf5a8fd_original.jpg)
"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ทีมจ่าฝูงของศึก ลา ลีกา สเปน กำลังทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ หลังคว้าชัยได้ถึง 8 จาก 9 นัดหลังในทุกรายการ โดยเมื่อคืนวันพุธที่แล้ว พวกเขาบุกไปเอาชนะ เชลซี ได้ถึงถิ่นในเกมนัดแรก ด้วยสกอร์ 3-1 จากแฮตทริกของ คาริม เบนเซม่า ก่อนที่ล่าสุดจะเปิดบ้านเอาชนะ เกตาเฟ่ 2-0 ในเกมลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ ยังคงชวดใช้งาน เอเด็น อาซาร์ กับ ลูก้า โยวิช ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนในรายของ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ยังต้องรอทดสอบสภาพความฟิต ขณะที่แข้งตัวหลักรายอื่นๆ ยังคงฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงสนามทั้งหมด
เจ้าถิ่นจะยังคงมาในระบบ 4-3-3 แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา และ นาโช่ เฟร์นานเดซ ส่วนแดนกลางใช้ ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่ และ โทนี่ โครส ยืนคุมเกม โดยมี เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, คาริม เบนเซม่า และ วินิซิอุส จูเนียร์ คอยไล่ล่าตาข่าย
สภาพความพร้อม เชลซี
(https://cms.dmpcdn.com/sportarticle/2022/04/07/3c997b00-b5f1-11ec-8299-7d47393e7ae5_original.jpg)
ส่วนผู้มาเยือนอย่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมอันดับ 3 ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการคว้าชัยในทุกรายการได้ 6 นัดติดต่อกัน พวกเขาก็พลาดท่าพ่ายคาบ้าน 2 นัดติด หลังแพ้ต่อ เบรนท์ฟอร์ด 1-4 ก่อนที่จะปราชัยให้กับ เรอัล มาดริด 1-3 ในเกมนัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่แล้ว ทว่าล่าสุด สิงห์บลูส์ ก็กลับมาระเบิดฟอร์มโหด ด้วยการบุกถล่ม เซาแธมป์ตัน ถึง 6-0 ในเกมลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เบน ชิลเวลล์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และ โรเมลู ลูกากู ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมทั้ง รอสส์ บาร์คลี่ย์ ที่มีอาการป่วย แต่ข่าวดีคือจะได้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า หายจากโควิด-19 กลับมาสู่ทีม ส่วนแกนหลักที่เหลือ ต่างฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงสนาม
เกมนี้ทีมเยือนจะยังคงใช้ระบบ 3-4-2-1 แนวรับ 3 คน ประกอบด้วย อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ วิงแบ็ก 2 ฝั่งเป็น รีซ เจมส์ กับ มาร์กอส อลอนโซ่ ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางใช้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ยืนคุมเกมร่วมกับ จอร์จินโญ่ โดยมี เมสัน เมาท์ กับ ติโม แวร์เนอร์ ช่วยกันสร้างสรรค์เกมรุกให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ เป็นตัวจบสกอร์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด : ติโบต์ กูร์กตัวส์ (GK), ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา, นาโช่ เฟร์นานเดซ, ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์
เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ (GK), อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาร์กอส อลอนโซ่, เมสัน เมาท์, ติโม แวร์เนอร์, ไค ฮาแวร์ตซ์
ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุด
เรอัล มาดริด
09/04/22 ชนะ เกตาเฟ่ 2-0 (เหย้า) ลา ลีกา
06/04/22 ชนะ เชลซี 3-1 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
02/04/22 ชนะ เซลต้า บีโก้ 2-1 (เยือน) ลา ลีกา
20/03/22 แพ้ บาร์เซโลน่า 0-4 (เหย้า) ลา ลีกา
14/03/22 ชนะ มายอร์ก้า 3-0 (เยือน) ลา ลีกา
เชลซี
09/04/22 ชนะ เซาแธมป์ตัน 6-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
06/04/22 แพ้ เรอัล มาดริด 1-3 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
02/04/22 แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-4 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
19/03/22 ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-0 (เยือน) เอฟเอ คัพ
16/03/22 ชนะ ลีลล์ 2-1 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ผลงานการพบกัน 5 นัดหลังสุด
06/04/22 เชลซี 1-3 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
05/05/21 เชลซี 2-0 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
27/04/21 เรอัล มาดริด 1-1 เชลซี (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
30/07/16 เรอัล มาดริด 3-2 เชลซี (ไอซีซี คัพ 2016)
08/08/13 เรอัล มาดริด 3-1 เชลซี (ไอซีซี คัพ 2013)
บทวิเคราะห์
ศึกยกแรก ราชันชุดขาว ได้ความยอดเยี่ยมของ คาริม เบนเซม่า ประกอบกับความผิดพลาดของ เอดูอาร์ เมนดี้ ช่วยให้พวกเขากุมความได้เปรียบอยู่มากพอสมควรเลยทีเดียว ขณะที่ทีมแชมป์เก่า หลังจากพลาดท่าพ่ายคาบ้านถึง 2 นัดติดในทุกรายการ พวกเขาก็กู้หน้า พร้อมเรียกความมั่นใจกลับมาได้แล้ว หลังไล่ถล่มคู่แข่งไปถึงครึ่งโหล ในเกมลีกเมื่อวันเสาร์
อย่างไรก็ดี คงต้องยอมรับว่า โจทย์ของ สิงห์บลูส์ ที่จำเป็นจะต้องบุกเอาชนะเจ้าถิ่นให้ได้ตั้งแต่ 2 ประตูขึ้นไป เพื่อพลิกสถานการณ์เข้ารอบนั้น ถือเป็นงานที่หนักหนาสาหัสไม่น้อยเลย โดยคาดว่า เรอัล มาดริด ที่เล่นได้ง่ายกว่า และมีความกดดันน้อยกว่า น่าจะเล่นแบบระวังตัว โดยเน้นรัดกุมไว้ก่อน แล้วค่อยอาศัยจังหวะสวนกลับเร็วเพื่อโจมตี
สุดท้ายแล้ว แม้มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ เชลซี จะบุกไปคว้าชัยได้สำเร็จ แต่ยังคงมองว่าด้วยความได้เปรียบในหลายๆ ปัจจัย ทั้งการได้เล่นในบ้าน รวมทั้งความเก๋าเกม ซึ่งมาจากประสบการณ์อันโชกโชนบนเวทียุโรป น่าจะช่วยให้ ทีมดังจากแดนกระทิงดุ เอาตัวรอด เป็นฝ่ายผ่านเข้ารอบตัดเชือกได้สำเร็จ โดยโอกาสที่เกมนี้จะจบลงด้วยผลเสมอแบบมีสกอร์ น่าจะมีมากที่สุด
สกอร์ที่คาด
เรอัล มาดริด 2-2 เชลซี