(https://www.siamsport.co.th/static/fdf87f94-4bc2-4fb3-a246-8e7026b16f58.jpg)
แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ให้เหตุผลถึงการที่ เควิน เดอ บรอยน์ ไม่สามารถแจ้งเกิดกับ "สิงห์บลูส์" ได้ จนทำให้ต้องย้ายออกจากทีม ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกในปัจจุบัน
เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ตัวกลั่นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประเดิมอาชีพบนศึก พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกภายใต้สีเสื้อ เชลซี ทว่าโอกาสที่จะลงสนามหาได้ยากเอามาก ๆ
ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกปล่อยตัวไปให้กับ แวร์เดอร์ เบรเมน แบบยืมตัว แล้วถูก โวล์ฟสบวร์ก ซื้อขาดจนสามารถแจ้งเกิดได้ จากนั้นเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทุ่มเงิน 50 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2.1 พันล้านบาทตอนซัมเมอร์ปี 2015 คว้าตัวมาเล่นที่ถิ่น เอติฮัด
จนกระทั่งปัจจุบัน เดอ บรอยน์ กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของโลก และในวัย 31 ปี แข้งเบลเจี้ยน เป็นกำลังหลักที่กำลังพา "เรือใบสีฟ้า" ไล่ล่า 3 แชมป์ในฤดูกาลนี้
ซึ่งในคืนวันอาทิตย์นี้ แมนฯ ซิตี้ ของ เดอ บรอยน์ ที่การันตีคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว มีคิวเปิดรัง เอติฮัด รับการมาเยือนของ เชลซี ที่มี แฟร้งค์ แลมพาร์ด อดีตผู้เล่น"สิงห์บลูส์" รับหน้าที่เป็นกุนซือขัดตาทัพ รวมถึงเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของ เดอ บรอยน์ สมัยค้าแข้งที่ เดอะ บริดจ์
โดยทาง แลมพาร์ด ได้พูดถึง เดอ บรอยน์ ในตอนที่ยังเป็นนักเตะ เชลซี และเผยสาเหตุว่าทำไมแข้งรายนี้ถึงไม่สามารถแจ้งเกิดกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้
"ผมชอบ เควิน ในฐานะผู้เล่นมาตลอดเลยนะ" แลมพาร์ด เผยก่อนเกมที่จะเจอแชมป์ลีกสูงสุด อังกฤษ 3 สมัยติด
"ผมชื่นชอบเขาตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่กับเราที่ เชลซี ซึ่งเราเป็นเพื่อนร่วมทีมกัน และตอนนี้ผมชื่นชอบเขาในฐานะผู้เล่นมิดฟิลด์ระดับท็อปคลาส"
"นึกย้อนกลับไปตอนที่เขาอยู่กับ เชลซี ตอนนั้นเราเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 เป็นหลัก และผมก็ลงเล่นเป็นตัวต่ำเป็นหนึ่งในสองผู้เล่นหมายเลข 6 (กองกลางตัวรับ) เควิน ต่อสู้มากขึ้นเพื่อเป็นผู้เล่นหมายเลข 10 หรือเพื่อเป็นผู้เล่นตำแหน่งด้านกว้าง"
"ดังนั้น ผมจึงไม่สามารถพูดได้ว่าเราเป็นคู่แข่งแย่งชิงตำแหน่งกันโดยตรง แต่คุณก็ได้เห็นคุณภาพของเขาแล้ว"
"เควิน เป็นผู้เล่นที่มหัศจรรย์ และเขากลายเป็นผู้เล่นระดับท็อปของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาตลอดหลายปี เขาเป็นหนึ่งในตัวอันตรายที่เราจะต้องรับมือ"
"ตอนที่เขาอยู่กับเราในช่วงที่เขายังเด็ก เราค่อนข้างมีแนวรุกที่ดี มีทั้ง เอแด็น(อาซาร์), (อันเดร) ชือร์เล่, ฆวน มาต้า และเรื่องที่ผมจำได้จาก เควิน คือความกระหาย และปรารถนาที่จะได้ลงเล่น"
"ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ทราบถึงความซับซ้อนที่เกิดขึ้นระหว่างเขา, สโมสร และผู้จัดการทีม(โชเซ่ มูรินโญ่) แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ผมเคารพสิ่งที่เขาทำในการย้ายออกเพื่อที่จะได้เล่นฟุตบอล คุณเห็นความกระหายในเกมของเขามาแล้ว และเขาอยากที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เขามี"
"ในฐานะผู้เล่น เขาแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เขาเติบโตแบบน่าเหลือเชื่อ และผมก็ชอบที่จะดูเขาเล่น ด้วยจำนวนมากมายที่เขาทำได้ ไม่ว่าจะทำประตู และแอสซิสต์จากตำแหน่งมิดฟิลด์มันมหัศจรรย์ และการวางบอลระยะไกลของเขามันน่าทึ่ง ถ้าเขาไม่ใช่คนที่ทำอย่างนั้นได้ดีที่สุดในลีกแล้วล่ะก็ อย่างน้อยเขาก็ต้องเป็นหนึ่งในคนที่ทำอย่างนั้นได้ดีที่สุดแน่นอน"