ยกนิ้วให้เลย! เออร์ลิง ฮาลันด์ ซิวรางวัลแข้งยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก หลังทำประตูถล่มทลายช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ เข้าป้ายคว้าแชมป์ พร้อมกับเป็นนักเตะจาก "เรือใบสีฟ้า" รายที่ 4 ที่ได้รางวัลนี้

เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผงาดคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของศึก พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2022/23 จากการประกาศผลอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม ก่อนที่ซีซั่นจะปิดฉากในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค.นี้

ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ ทำไป 36 ประตูในลีก ทำลายสถิติยิงมากสุดในซีซั่นเดียวที่ แอนดี้ โคล และ อลัน เชียเรอร์ ทำไว้ 34 ประตู และยังเป็นนักเตะคนแรกที่ทำแฮตทริกได้ 3 เกมในบ้านติดต่อกัน และเป็นผู้เล่น "เรือใบสีฟ้า" คนแรกที่ทำแฮตทริกได้ในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ นับตั้งแต่ปี 1970 อีกด้วย

จากผลงานที่ยอดเยี่ยมทำให้ ฮาลันด์ ได้คะแนนโหวตจากแฟนบอลทั่วโลกรวมกับของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลให้เอาชนะคู่แข่งทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางเพื่อนร่วมสังกัด, บูคาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด สองแข้ง อาร์เซน่อล, มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด, แฮร์รี่ เคน ดาวยิง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวา นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ทั้งนี้ ฮาลันด์ เป็นนักเตะ แมนฯ ซิตี้ คนที่ 4 ที่ได้รางวัลนี้ต่อจาก เดอ บรอยน์ (2019/20 และ 2020/21), รูเบน ดิอาส (2020/21) และ แว็งซองต์ กอมปานี (2011/12)

เจมี่ เร้ดแน็ปป์ ปลุกเร้า แฮร์รี่ เคน ว่าต้องหาทางทิ้ง สเปอร์ส ให้ได้ เพื่อที่จะได้มีโอกาสไปไล่ล่าแชมป์กับที่อื่นสักที โดยบอกว่าตอนนี้ "ไก่เดือยทอง" มีสภาพที่ย่ำแย่สุดๆ

เจมี่ เร้ดแน็ปป์ อดีตกองกลางของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เว็บหวยออนไลน์ สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กระตุ้นให้ แฮร์รี่ เคน ดาวยิง "ไก่เดือยทอง" หาทางย้ายออกจากทีมให้ได้ภายในช่วงซัมเมอร์นี้

ตลอดช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา เคน ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดในยุคปัจจุบันจากการทำประตูให้ สเปอร์ส ได้เป็นกอบเป็นกำอย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงตอนนี้แข้งวัย 29 ปีกลับยังไม่เคยได้แชมป์รายการใหญ่ๆ เลย และตอนนี้เขาก็เหลือสัญญากับทีมอีกเพียงราว 1 ปีเท่านั้น

เร้ดแน็ปป์ กล่าวว่า "นั่นคือความจริง มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า สเปอร์ส กำลังเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง ถ้าเกิดคุณเป็น แฮร์รี่ เคน แล้วเหลือสัญญาอีกเพียง 1 ปีแล้วล่ะก็ นี่ก็ถือเป็นเวลาอันเหมาะสมสำหรับการย้ายทีมแล้ว เขาต้องผลักดันให้เกิดเรื่องนั้นให้ได้ในตอนนี้"

"(แมนเชสเตอร์) ยูไนเต็ด อาจจะได้กองหน้าสักคนมาร่วมทีม ส่วนกับ แมนฯ ซิตี้ เขาก็พลาดโอกาสทองไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน https://lottotao.net/ ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่เขาต้องพยายามผลักดันให้ตัวเองได้ย้ายไปอยู่ที่ไหนสักที่หลังจากเขาเหลือสัญญากับทีม 1 ปี"

"ท็อตแน่ม เป็นเหมือนสถานที่สำหรับการทดลองทางสังคมว่าคุณจะทำให้แฟนบอลของทีมตัวเองทนไปได้นานแค่ไหนก่อนที่พวกเขาจะสติแตกอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจำเป็นต้องทำบางอย่าง (เพื่อทำให้ทีมมีผลงานดีขึ้น) แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเสียนักเตะระดับ แฮร์รี่ เคน หรอก เขาเป็นนักเตะชั้นยอด แต่เขาก็สมควรจะได้รับบางอย่างที่ดีกว่านี้เหมือนกัน"

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวเตะ ลิเวอร์พูล โพสต์ข้อความอำลา 4 เพื่อนร่วมทีมแบบสุดซึ้ง โดยบอกด้วยว่าหวังว่าจะมีโอกาสได้โคจรมาเจอกันในภายภาคหน้า

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกคนเก่งของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตรวจหวยย้อนหลัง กล่าวอำลา โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, เจมส์ มิลเนอร์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ นาบี เกอิต้า 4 เพื่อนร่วมทีม "หงส์แดง"

ซาลาห์ และ 4 แข้งในเบื้องต้นร่วมงานด้วยกันมาหลายฤดูกาลและช่วยให้ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ทั้ง 4 คนนั้นก็จะหมดสัญญากับทีมหลังจบซีซั่นนี้แล้ว

ดาวเตะชาวอียิปต์โพสต์ผ่าน ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิตว่า "หนึ่งในสิ่งที่สวยงามที่สุดของฟุตบอลก็คือเราได้เจอกับคนที่ยอดเยี่ยมและได้ร่วมแบ่งปันช่วงเวลาต่างๆ กับพวกเขา ผมจะคิดถึง บ็อบบี้, มิลลี่, อ็อกซ์ และ นาบี้ รวมถึงหวังว่าเราจะมีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง"

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ออกโรงชม โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ว่าเป็นคนที่ฉลาดในเรื่องที่เกี่ยวกับฟุตบอลมากๆ พร้อมบอกว่านั่นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ ฟีร์มีโน่ เป็นเหมือนในทุกวันนี้ได้

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวยกย่อง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กองหน้าชาวบราซิเลียนว่าเป็นคนที่มีความฉลาดเฉลียวในการเล่นฟุตบอลสุดๆ

ฟีร์มีโน่ ประกาศไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะบอกลา ลิเวอร์พูล แบบไร้ค่าตัวตอนที่หมดสัญญากันในช่วงซัมเมอร์นี้ ภายหลังเล่นให้ทีมมาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งแข้งวัย 31 ปีก็ถือเป็นขวัญใจของทั้งคนในทีมและเหล่า "เดอะ ค็อป" จากการที่เป็นเหมือนผู้ปิดทองหลังพระจนทำให้ทีมได้แชมป์หลายรายการ

ทั้งนี้ ล่าสุดคนในทีม ลิเวอร์พูล จัดงานปาร์ตี้อำลาให้กับ ฟีร์มีโน่ ซึ่งช่วงหนึ่ง คล็อปป์ ก็ขึ้นเวทีแล้วพูดถึงดาวเตะเลือดแซมบ้าว่า "นายเป็นคนที่มีความฉลาดในด้านฟุตบอลมากๆ ในการซ้อมน่ะนายเป็นคนแรกที่จะเข้าใจว่าต้องซ้อมแบบไหน มันเหมือนกับว่าพอเห็นแค่ครั้งเดียวนายก็จะมีความคิดว่า -อ้า โอเค ผมรู้แล้ว-"

"มันเป็นสิ่งที่พิเศษมากๆ และมันทำให้นายเป็นนักเตะอย่างที่เป็นในทุกวันนี้ แน่นอนว่านายมีเทคนิคที่ดี แต่มันสมองในการเล่นฟุตบอลของนายก็น่าทึ่งเหมือนกัน ทุกอย่างมันดีไปหมดและมันทำให้นายเป็นนักเตะอย่างในทุกวันนี้"

https://twitter.com/i/status/1660758085680414727

ดีน สมิธ กุนซือทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ระบุว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ เดอะ ฟ็อกซ์ ต้องงัดเกมมหาอุดมาใช้กับ นิวคาสเซิ่ล ที่สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค และได้รับผลเสมอ 0-0 จากการฟาดแข้งศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันจันทร์ที่ 22 พ.ค.

เลสเตอร์ ยกทัพมาเยือน นิวคาสเซิ่ล ซึ่งต้องการหนึ่งแต้มเป็นอย่างน้อยสำหรับการคว้าโควต้าท็อปโฟร์ แต่ในฐานะเจ้าบ้าน ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว จึงบุกแหลกหมายกำชัยมอบให้กับสาวก ขณะที่ สมิธ ยอมรับว่าจำเป็นต้องมักน้อยขอเสมอเอาไว้ก่อนเนื่องจากศักยภาพเป็นรองทีมอีสานแล้วค่อยไปลุ้นหนีตกชั้นในเกมปิดซีซั่นอีกเฮือก

"เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่ามันเป็นหนึ่งแต้มที่ดีหรือเปล่า เราทำแบบนี้เพื่อได้ลุ้นต่อในเกมสุดท้าย และบีบให้ เอฟเวอร์ตัน ต้องชนะ ผมไม่คิดขอโทษสำหรับแนวทางการเล่นของเราในวันนี้ ผมรู้สึกว่าเราต้องมีแต้มให้ได้" สมิธ กล่าว

"นิวคาสเซิ่ล เป็นหนึ่งในสามทีมนำมาตลอดทั้งซีซั่น พวกเขาถล่มหลายทีมที่บุกมาที่นี่ เราไม่อาจปล่อยให้พวกเขาทำอะไรกับเราแบบนั้นได้โดยเฉพาะการผ่านบอลจาก คีแรน ทริปเปียร์ เราลำบากในการตั้งรับอยู่เหมือนกัน และเราจำเป็นต้องมีเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเพิ่มอีกราย"

"เราไม่ได้ครองบอลเลยเป็นเวลานาน แต่ผมคิดว่าวินัยของเราดีมาก ใช่ พวกเขามีโอกาสมาก แต่พวกเขาทำได้แบบนี้กับหลายๆทีมในลีกซีซั่นนี้"

"เรามีความหวังในช่วง 20  นาทีสุดท้าย ดังนั้นเราจึงเดินเกมรุกมากขึ้นนิดหน่อย และเราเกือบคว้าโอกาสได้ในนาทีที่ 90"

"เราเก็บคลีนชีตไม่ได้เลย มันเป็นปัญหาในใจของนักเตะ มันเป็นคลีนชีตแรกในครึ่งแรกของผมจากเจ็ดนัด ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ"

"คุณไม่อาจเปิดพื้นที่ให้พวกเขาที่นี่ได้ มันเป็นเกมที่ลำบากสำหรับการลุ้น แต่คุณได้เห็นนักเตะต่อสู้ตลอดเวลา"

พร้อมกันนี้ สมิธ เอ่ยว่า บรูโน่ กิมาไรซ์ สตาร์ทีม สาลิกาดง น่าจะได้ใบแดงตั้งแต่ต้นเกมด้วยในจังหวะยันใส่ต้นขาของ บูบาการี่ ซูมาเร่ รุนแรงเกินความจำเป็น

"ผมรู้สึกว่ามันสมควรมีการไล่ออกในช่วงต้นเกม มันเป็นการเข้าปะทะที่เลวร้ายจาก บรูโน่ ซึ่งยันใส่ต้นขาของ ซูมาเร่"

"ผมไม่แน่ใจว่าวีเออาร์เห็นเหตุการณ์หรือเป่าจากที่เราฉงนกันมาตลอดทั้งซีซั่นซึ่งจะต้องเป็นใบแดงหลายใบ"

สุดท้ายแล้ว นายใหญ่ เดอะ ฟ็อกซ์ เอ่ยถึงเกมปิดซีซั่นที่พวกเขาต้องชนะ เวสต์แฮม ในบ้านสถานเดียว พร้อมทั้งลุ้นผลของ เอฟเวอร์ตัน เพื่อโอกาสอยู่รอดว่า "เราจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้วย ผมคิดว่าทั้งสามทีมจะกระสับกระส่ายกันมาก"

"ก่อนอื่นเราต้องปิดจ็อบที่ยากกับ เวสต์แฮม ให้สำเร็จด้วยการพยายามคว้าชัยชนะ ผมมั่นใจว่าแฟนบอลจะเป็นกำลังใจให้เรา"

"จากนั้นมันไม่ได้อยู่ในความควบคุมของเรา หาก เอฟเวอร์ตัน ชนะ...แต่แน่นอนว่าจะทุ่มเทอย่างถึงที่สุดเพื่อกดดันพวกเขา"

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ให้เหตุผลถึงการที่ เควิน เดอ บรอยน์ ไม่สามารถแจ้งเกิดกับ "สิงห์บลูส์" ได้ จนทำให้ต้องย้ายออกจากทีม ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกในปัจจุบัน

เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ตัวกลั่นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประเดิมอาชีพบนศึก พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกภายใต้สีเสื้อ เชลซี ทว่าโอกาสที่จะลงสนามหาได้ยากเอามาก ๆ

ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกปล่อยตัวไปให้กับ แวร์เดอร์ เบรเมน แบบยืมตัว แล้วถูก โวล์ฟสบวร์ก ซื้อขาดจนสามารถแจ้งเกิดได้ จากนั้นเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทุ่มเงิน 50 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2.1 พันล้านบาทตอนซัมเมอร์ปี 2015 คว้าตัวมาเล่นที่ถิ่น เอติฮัด

จนกระทั่งปัจจุบัน เดอ บรอยน์ กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของโลก และในวัย 31 ปี แข้งเบลเจี้ยน เป็นกำลังหลักที่กำลังพา "เรือใบสีฟ้า" ไล่ล่า 3 แชมป์ในฤดูกาลนี้

ซึ่งในคืนวันอาทิตย์นี้ แมนฯ ซิตี้ ของ เดอ บรอยน์ ที่การันตีคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว มีคิวเปิดรัง เอติฮัด รับการมาเยือนของ เชลซี ที่มี แฟร้งค์ แลมพาร์ด อดีตผู้เล่น"สิงห์บลูส์" รับหน้าที่เป็นกุนซือขัดตาทัพ รวมถึงเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของ เดอ บรอยน์ สมัยค้าแข้งที่ เดอะ บริดจ์

โดยทาง แลมพาร์ด ได้พูดถึง เดอ บรอยน์ ในตอนที่ยังเป็นนักเตะ เชลซี และเผยสาเหตุว่าทำไมแข้งรายนี้ถึงไม่สามารถแจ้งเกิดกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้

"ผมชอบ เควิน ในฐานะผู้เล่นมาตลอดเลยนะ" แลมพาร์ด เผยก่อนเกมที่จะเจอแชมป์ลีกสูงสุด อังกฤษ 3 สมัยติด

"ผมชื่นชอบเขาตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่กับเราที่ เชลซี ซึ่งเราเป็นเพื่อนร่วมทีมกัน และตอนนี้ผมชื่นชอบเขาในฐานะผู้เล่นมิดฟิลด์ระดับท็อปคลาส"

"นึกย้อนกลับไปตอนที่เขาอยู่กับ เชลซี ตอนนั้นเราเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 เป็นหลัก และผมก็ลงเล่นเป็นตัวต่ำเป็นหนึ่งในสองผู้เล่นหมายเลข 6 (กองกลางตัวรับ) เควิน ต่อสู้มากขึ้นเพื่อเป็นผู้เล่นหมายเลข 10 หรือเพื่อเป็นผู้เล่นตำแหน่งด้านกว้าง"

"ดังนั้น ผมจึงไม่สามารถพูดได้ว่าเราเป็นคู่แข่งแย่งชิงตำแหน่งกันโดยตรง แต่คุณก็ได้เห็นคุณภาพของเขาแล้ว"

"เควิน เป็นผู้เล่นที่มหัศจรรย์ และเขากลายเป็นผู้เล่นระดับท็อปของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาตลอดหลายปี เขาเป็นหนึ่งในตัวอันตรายที่เราจะต้องรับมือ"

"ตอนที่เขาอยู่กับเราในช่วงที่เขายังเด็ก เราค่อนข้างมีแนวรุกที่ดี มีทั้ง เอแด็น(อาซาร์), (อันเดร) ชือร์เล่, ฆวน มาต้า และเรื่องที่ผมจำได้จาก เควิน คือความกระหาย และปรารถนาที่จะได้ลงเล่น"

"ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ทราบถึงความซับซ้อนที่เกิดขึ้นระหว่างเขา, สโมสร และผู้จัดการทีม(โชเซ่ มูรินโญ่) แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ผมเคารพสิ่งที่เขาทำในการย้ายออกเพื่อที่จะได้เล่นฟุตบอล คุณเห็นความกระหายในเกมของเขามาแล้ว และเขาอยากที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เขามี"

"ในฐานะผู้เล่น เขาแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เขาเติบโตแบบน่าเหลือเชื่อ และผมก็ชอบที่จะดูเขาเล่น ด้วยจำนวนมากมายที่เขาทำได้ ไม่ว่าจะทำประตู และแอสซิสต์จากตำแหน่งมิดฟิลด์มันมหัศจรรย์ และการวางบอลระยะไกลของเขามันน่าทึ่ง ถ้าเขาไม่ใช่คนที่ทำอย่างนั้นได้ดีที่สุดในลีกแล้วล่ะก็ อย่างน้อยเขาก็ต้องเป็นหนึ่งในคนที่ทำอย่างนั้นได้ดีที่สุดแน่นอน"

โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ ระบุ ตนถูกใจด้วยซ้ำที่บางครั้งมีปากเสียงกับ เควิน เดอ บรอยน์ หลังจากทั้งคู่เพิ่งมีชอตตะโกนใส่กันในเกมชนะ เรอัล มาดริด

โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตนไม่โกรธเลยที่ เควิน เดอ บรอยน์ ตะโกนใส่ตน แถมที่จริงรู้สึกชอบด้วยซ้ำ

แมนฯ ซิตี้ เพิ่งไล่ถล่ม เรอัล มาดริด 4-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง แต่ช่วงหนึ่งนั้น กวาร์ดิโอล่า ทำท่าเหมือนจะตะโกนตำหนิ เดอ บรอยน์ ที่เล่นได้ไม่ถูกใจ ซึ่งมันก็ทำให้ดาวเตะชาวเบลเยียมตะโกนสวนกลับไปว่า "หุบปากไปเลย" โดยนี่ต่างกับกรณีของ แจ็ค กรีลิช ที่กุนซือคนดังมีชอตทำท่าถูกใจกับการผ่านบอลของดาวเตะชาวอังกฤษ

กวาร์ดิโอล่า เผยว่า "เรื่องกับ เควิน น่ะ ผมบอกเลยว่าผมชอบนะที่เราตะคอกใส่กัน ผมชอบมันมากๆ บางครั้งจืดชืดไปนิดหน่อย ผมชอบความมีชีวิตชีวาแบบนี้ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เราทะเลาะกันหรอก คุณไม่มีโอกาสได้เห็นมันแต่ตอนซ้อมน่ะเขาตะโกนใส่ผมหลายครั้งเลย แล้วหลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นคนที่เล่นได้ดีที่สุด"

"กุนโด้ (อิลคาย กุนโดกัน) เสียบอลบ่อยเกินไปในเกมนั้น เควิน เองก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ซึ่งเราไม่ต้องการให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นในเกม ตอนพักครึ่งผมบอกกับลูกทีมว่าต้องคุมเกมให้ได้, เล่นงานพวกเขาให้ได้ แต่เรากลับทำไม่สำเร็จ"

"อย่างไรก็ตาม เควิน ก็ยังเล่นอย่างใจเย็นและทำแอสซิสต์สวยๆ ได้ ในขณะที่ แจ็ค ทำตรงกันข้าม ที่จริงเขาสามารถวิ่งขึ้นหน้าเองได้แต่เขาก็ช่วยทีมและมีส่วนร่วมกับการผ่านบอล นั่นแหละคือฟุตบอล เรื่องอย่างนี้มันต้องเกิดขึ้นเพื่อที่จะได้มีสปิริตของการแข่งขัน"

ฟุตบอล ลีคส์ สื่อแวดวงฟุตบอล ระบุ แข้งชื่อดังหลายคนของ แมนฯ ซิตี้ จะได้โบนัสเกิน 1 ล้านปอนด์ต่อคนหากทีมได้ครบทั้ง 3 แชมป์ในซีซั่นนี้ ส่วนกลุ่มที่เหลือจะได้เงินลดหลั่นกันไป

นักเตะระดับชั้นนำของ เว็บบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะได้รับโบนัสคนละเกิน 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 42 ล้านบาท) ขึ้นไป ถ้าหากฤดูกาลนี้ทีมสามารถทำทริปเปิ้ลแชมป์ได้ ตามรายงานของ ฟุตบอล ลีคส์ สื่อด้านวงการลูกหนังรายหนึ่ง

ซีซั่นนี้ แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสดีที่จะได้แชมป์รายการใหญ่ทั้ง 3 รายการ ซึ่งที่ผ่านมาหากนับเฉพาะภายในประเทศอังกฤษนั้นมีเพียง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยได้ทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายในฤดูกาลเดียวกัน

ทั้งนี้ ฟุตบอล ลีคส์ เสริมว่านักเตะระดับชั้นนำของ แมนฯ ซิตี้ ที่อยู่ในข่ายว่าจะได้โบนัสถึงเลข 7 หลักนั้นมีอย่างเช่น เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางชาวเบลเยียม ส่วนคนที่อาจจะไม่ได้ดังเท่าก็จะได้รับโบนัสแตกต่างกันไปตั้งแต่ระหว่าง 500,000 ปอนด์ (ประมาณ 21 ล้านบาท) ไปจนถึง 1 ล้านปอนด์

สำหรับ แมนฯ ซิตี้ เองนั้น ถ้าหากพวกเขาได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองแล้วล่ะก็ https://thaisport.co/ พวกเขาก็จะได้รับเงินรางวัลแค่จากการเป็นแชมป์สูงถึง 20 ล้านยูโร (ประมาณ 740 ล้านบาท) ซึ่งนี่ยังไม่นับรวมเงินจากส่วนอื่นๆ ด้วย อย่างเช่นค่าลิขสิทธิ์ โดยซีซั่นที่แล้ว เรอัล มาดริด ที่ได้ถ้วยบิ๊กเอียร์ไปครองนั้นได้เงินทั้งหมดจาก แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นจำนวนมากกว่า 80 ล้านยูโร (ประมาณ 2,960 ล้านบาท) เลยทีเดียว

บทความคล้ายกัน : https://ufabetboard.org/index.php?topic=688.0

เอสปันญ่อล เจ้าบ้าน ทีมอันดับที่ 19 ของตาราง ผลงานในฤดูกาลนี้ยังย่ำแย่ ทำให้ตอนนี้อยู่ในโซนตกชั้น ต้องเร่งคันเร่งให้สุดแรง โดยวันนี้ ได้เล่นในบ้าน ผลงาน 16 นัด พวกเขาชนะ 4 เสมอ 5 และแพ้ไป 7 นัดด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ฟอร์ม 6 นัดหลังสุด แพ้ไปถึง 4 เกมเลยทีเดียว ถ้าฟอร์มยังแบบนี้ ดูแล้วรอดยากแน่ๆ

บาร์เซโลน่า ทีมเยือน ยังคงรั้งตำแหน่งจ่าฝูงแบบสบายๆ วันนี้อาจจะต้องออกมาเล่นนอกบ้าน ซึ่งมีสะดุดอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ยังน่ากลัว สถิติ 16 นัดที่ออกไปเล่นเกมเยือน พวกเขาชนะไปได้ 12 เกม เสมอ 1 และแพ้ไป 3 ครั้งด้วยกัน สำหรับเป้าหมายในเกมนี้ หวังชัยชนะแน่นอน เพราะอยากคว้าแชมป์ลีก ให้เร็วที่สุด

ต่างฝ่ายต่างต้องการชัยชนะกันทั้งคู่ โดยเจ้าบ้าน หวังจะอยู่รอด ส่วนทีมเยือนหวังจะเป็นแชมป์ ดังนั้นเกมนี้ยังมีความสำคัญ ซึ่งเทียบผลงานกันแล้ว ยังไงก็ต้องยกให้ บาร์เซโลน่า ที่ยังดีกว่าเยอะ ดังนั้นกับราคาแค่ประตูเดียวแบบนี้ ขออยู่ทีมเยือนดีกว่า เชื่อว่าชนะไปได้ และลุ้นเม็ดสองกันไปยาวๆ


วันอาทิตย์ ที่ 14 พฤษภาคม 2566
ฟุตบอลลาลีก้า สเปน : เอสปันญ่อล พบกับ บาร์เซโลน่า
แฮนดิแคพ : บาร์เซโลน่า ต่อ หนึ่งลูก
ฟันธง : บาซ่า ฮาเฮ

ที่มา : ทีเด็ดแม่นๆจากเซียน : ลาลีก้า สเปน เอสปันญ่อล พบกับ บาร์เซโลน่า by UFA350S.BET