ซีซั่นนี้ทีมใน พรีเมียร์ลีก โดนปรับจากความผิดฐานแสดงความประพฤติไม่เหมาะสมใส่เชิ้ตดำรวม 932,500 ปอนด์ ซึ่งแชมป์ตกเป็นของ อาร์เซน่อล

ฤดูกาล 2022-23 บรรดาสโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จ่ายค่าปรับให้สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) จากข้อหาการแสดงความประพฤติไม่เหมาะสมต่อกรรมการเป็นจำนวนรวมแล้ว 932,500 ปอนด์ (ประมาณ 39.16 ล้านบาท) ตามการสำรวจของ เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ

ประเด็นการที่นักเตะแสดงความเดือดดาลใส่กรรมการกลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างมากหลังจากที่ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กองหน้า ฟูแล่ม เพิ่งได้รับใบแดงในเกม เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่ทีมของเขาแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากการที่เจ้าตัวไปผลักแขนกรรมการอย่างดุเดือด

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเพียง 5 ทีมในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีเท่านั้นที่ฤดูกาลนี้ยังไม่โดนปรับจากข้อหานี้เลย ได้แก่ เลสเตอร์ ซิตี้, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, เบรนท์ฟอร์ด, บอร์นมัธ และ เซาธ์แฮมป์ตัน

สำหรับทีมที่เสียเงินจากข้อหานี้มากที่สุดคือ อาร์เซน่อล ซึ่งโดนปรับไปแล้วรวม 185,000 ปอนด์ (ประมาณ 7.77 ล้านบาท) ตามมาด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จำนวน 137,000 ปอนด์ (ประมาณ 5.75 ล้านบาท) ส่วนที่ 3 ตกเป็นของ เอฟเวอร์ตัน ด้วยจำนวนเงิน 115,000 ปอนด์ (ประมาณ 4.83 ล้านบาท)

มีการเปิดเผยด้วยว่าหากนับรวมกับทีมจาก อิงลิช ฟุตบอล ลีก (หมายถึง เดอะ แชมเปี้ยนชิพ, ลีก วัน และ ลีก ทู) เข้าไปด้วยล่ะก็ ในซีซั่นนี้ เอฟเอ ก็ได้ค่าปรับจากข้อหาการแสดงความประพฤติไม่เหมาะสมต่อกรรมการเป็นจำนวนรวม 1,279,375 ปอนด์ (ประมาณ 53.73 ล้านบาท) ด้วยกัน

15 ทีมใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เสียค่าปรับจากข้อหาการแสดงความประพฤติไม่เหมาะสมต่อกรรมการ ในฤดูกาล 2022-23

1. อาร์เซน่อล 185,000 ปอนด์

2. แมนฯ ยูไนเต็ด 137,000 ปอนด์

3. เอฟเวอร์ตัน 115,000 ปอนด์

4. แมนฯ ซิตี้ 75,000 ปอนด์

5. น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 73,000 ปอนด์

6. ลีดส์ 70,000 ปอนด์

7. ลิเวอร์พูล 55,000 ปอนด์

- คริสตัล พาเลซ 55,000 ปอนด์

9. วูล์ฟส์ 45,000 ปอนด์

10. ฟูแล่ม 27,500 ปอนด์

11. แอสตัน วิลล่า 20,000 ปอนด์

- เชลซี 20,000 ปอนด์

- สเปอร์ส 20,000 ปอนด์

- เวสต์แฮมฯ 20,000 ปอนด์

15. ไบรท์ตันฯ 15,000 ปอนด์

งานจะเข้าไหม? เจ้าหนู อเลฮานโดร การ์นาโช่ เผลอโพสต์สตอรี่ไอจีติดภาพบุหรี่ไฟฟ้า ระหว่างเชียร์ เพื่อนร่วมทีมลงสนามในเกม เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งแม้เจ้าตัวจะลบทิ้งทัน แต่ก็ไม่รอดถูกโลกออนไลน์แคปภาพไว้ได้ทัน

อเลฮานโดร การ์นาโช่ ปีกอนาคตไกล แมนฯ ยูไนเต็ด ส่อแววงานเข้าเสียแล้วเมื่อเจ้าตัวเผลอโพสต์สตอรี่ไอจีติดภาพบุหรี่ไฟฟ้าในขณะที่กำลังเชียร์เพื่อนร่วมทีมลงสนามในเกม เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่เปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอาชนะ ฟูแล่ม 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา

แนวรุกชาวอาร์เจนตินา กำลังพักรักษาตัวจากปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถลงสนามช่วยเพื่อนร่วมทีมได้และทำได้เพียงแค่นั่งให้กำลังใจอยู่ที่ที่พักของเขา โดยที่ ดาวเตะเลือดฟ้า-ขาว ก็โพสต์สตอรี่ไอจีขณะกำลังนั่งชมเกมดังกล่าวอยู่ แต่ดันมีแฟนบอลตาดีสังเกตเห็นสิ่งที่ดูเหมือนเป็นบุหรี่ไฟฟ้ารุ่น 'Elux Legend 3500' วางอยู่บนโซฟา



ถึงแม้ว่าต่อมา การ์นาโช่ รีบแก้ไขด้วยการลบสตอรี่ดังกล่าวออกและตัดต่อภาพนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโพสต์สตอรี่ที่แก้ไขซึ่งไม่ปรากฏภาพของบุหรี่ไฟฟ้า แต่ก็ถูกมือดีแคปเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการแถลงการณ์หรือชี้แจงใด ๆ จากทาง ปีศาจแดง หรือ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ทว่าบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกายของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักฟุตบอลอาชีพ เพราะมันจะส่งผลต่อระบบหายใจรวมถึงการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายด้วย

อันโตนิโอ คอนเต้ ส่อแววเป็นกุนซือ พรีเมียร์ลีก ตกงานคนต่อไป เมื่อร้านพูลเมืองผู้ดีหั่นราคาลงมาเหลือแค่แทง 5 จ่าย 1 เท่านั้น หลังด่าไม่ไว้หน้าใครหลังจบเกมเจ๊า เซาธ์แฮมป์ตัน

สกาย เบต บริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายของประเทศอังกฤษ ปรับราคาให้ อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ขึ้นมาเป็นเต็ง 1 กุนซือ พรีเมียร์ลีก คนต่อไปที่จะต้องอำลาตำแหน่ง หลังจากฉุนขาดเปิดปากเฉ่งลูกทีมหลังนัดบุกไปเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา

คอนเต้ ระเบิดอารมณ์จวกแหลกนักเตะว่าเล่นกันแบบตัวใครตัวมัน และไม่มีพัฒนาการจนทำให้ทีมย่ำอยู่กับที่ หลังเกมนี้ "ไก่เดือยทอง" ออกนำ 3-1 แต่มาโดนตีเสมอช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ตลอดจนตั้งคำถามถึงเจ้าของทีมว่า 20 กว่าปีที่ผ่านมา ทำไมไม่ได้แชมป์อะไรเลย

"จากสิ่งที่ผมเห็น การพูดถึงฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ ตอนนี้เราเหลืออีก 10 นัด และมีคนคิดว่าเราสามารถต่อสู้ได้แค่อันดับที่เจ็ด หรือแปดเท่านั้น ผมเคยต่อสู้แบบนี้มาแล้ว มันเป็นความรับผิดชอบของทุกคน"

"พวกเขาคุ้นชินกับสิ่งนี้ พวกเขาไม่เล่นเพื่อบางสิ่งที่สำคัญ พวกเขาไม่เล่นภายใต้ความกดดัน เรื่องราวของ สเปอร์ส เป็นอย่างนี้มา 20 ปีแล้ว เจ้าของสโมสรไม่เคยได้แชมป์เลย ทำไมล่ะ? แฟนๆสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้จากทีมนี้" คอนเต้ กล่าว

สกาย เบต ปรับให้ คอนเต้ มาเป็นเต็งหนึ่งแทน เดวิด มอยส์ กุนซือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยมีอัตราต่อรองลดจาก 13/8 (แทง 8 จ่าย 13 ไม่รวมทุน) ลงมาเหลือแค่ 1/5 (แทง 5 จ่าย 1 ไม่รวมทุน) เท่านั้น

อัตราต่อรองกุนซือ พรีเมียร์ลีก ที่จะอำลาตำแหน่งคนต่อไป

1. อันโตนิโอ คอนเต้ (สเปอร์ส) 1/5

2. เดวิด มอยส์ (เวสต์แฮม) 13/2

3. เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (เลสเตอร์) 10/1

4. แกรม พ็อตเตอร์ (เชลซี) 14/1

5. สตีฟ คูเปอร์ (ฟอเรสต์) 16/1

6. แกรี่ โอนีล (บอร์นมัธ) 20/1

6. รูเบน เซเยส (เซาธ์แฮมป์ตัน) 20/1

8. เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล) 28/1

9. จูเลน โลเปเตกี (วูล์ฟส์) 40/1

ไม่รอดตามคาด! คริสตัล พาเลซ เด้ง ปาทริค วิเอร่า เรียบร้อยก่อนเจอ อาร์เซน่อล สุดสัปดาห์นี้ หลังผลงานแย่ในปี 2023 และไม่ชนะใครมาแล้ว 12 เกมติดต่อกัน

คริสตัล พาเลซ สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศปลด ปาทริค วิเอร่า ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส ออกจากตำแหน่งกุนซือแห่งถิ่น เซลเฮิร์สท์ พาร์ค อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม ขณะที่ โอเซียน โรเบิร์ตส์, คริสเตียน วิลสัน และ ซาอิด อายกูน สามสตาฟฟ์โค้ชก็อำลาทีมเช่นกัน

ทัพ "ปราสาทเรือนแก้ว" ทำผลงานย่ำแย่เมื่อเข้าสู่ปี 2023 ยังไม่ชนะใครเลย โดยเกมล่าสุดออกไปพ่าย ไบรท์ตัน 0-1 ส่งผลให้ไม่ชนะ 12 นัดติดทุกรายการ และแพ้ 3 นัดติด รั้งอันดับ 12 ใน พรีเมียร์ลีก มี 27 แต้ม จาก 27 นัด มากกว่าโซนตกชั้นแค่ 3 คะแนนเท่านั้น

ขณะที่ สตีฟ แพริช ประธานสโมสร พาเลซ เผยว่า "เสียใจอย่างยิ่งที่การตัดสินใจที่ยากลำบากนี้เกิดขึ้น ผลการแข่งขันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ไม่แน่นอนในลีก และเรารู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้โอกาสที่ดีที่สุดในการรักษาสถานะพรีเมียร์ลีก"

ทั้งนี้ วิเอร่า วัย 46 ปี เข้ามาคุม พาเลซ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2021 ต่อจาก รอย ฮ็อดจ์สัน ที่วางมือ โดยก่อนหน้านั้นเจ้าตัวเคยคุมสโมสร นิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี และ นีซ หลังสมัยค้าแข้งเคยประสบความสำเร็จกับ อาร์เซน่อล ระหว่างปี 1996-2005 ก่อนแขวนสตั๊ดกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2011

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ พาเลซ จะต้องออกไปเยือน อาร์เซน่อล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ในวันอาทิตย์ที่ 19 มี.ค.นี้

เจมี่ คาร์ราเกอร์ ระบุ ในช่วงซัมเมอร์นี้ ลิเวอร์พูล ต้องดึงแบ็กขวามาร่วมทีม เพื่อที่จะทำให้เกิดการแย่งตำแหน่งกับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ รวมถึงช่วยแบ่งเบาภาระของอีกฝ่ายด้วย โดยบอกว่าที่ผ่านมา อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำได้ดีมากๆ จนทำให้ตนภูมิใจอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว

เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลังของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าในช่วงซัมเมอร์นี้ "หงส์แดง" จำเป็นต้องดึงแบ็กขวาดีๆ มาร่วมทีมให้ได้ เพื่อที่จะทั้งเป็นการกระตุ้น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และเป็นการช่วยดาวเตะชาวอังกฤษไปในตัว

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแบ็กขวาชั้นยอดตลอดช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา แต่พักหลังมานี้ฟอร์มของเขาดร็อปลง โดยเฉพาะเกมรับที่ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรจนส่งผลเสียถึงผลงานของทีมตามไปด้วย

คาร์ราเกอร์ กล่าวว่า "มันน่าเป็นห่วงมากๆ สิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่ได้มีแค่ ลิเวอร์พูล โดยรวมในฐานะทีมเท่านั้น แต่รวมถึงตัวเขาด้วย และความหมายของผมก็คือมันจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ในฤดูกาลนี้มีหลายครั้งที่เขาเล่นเกมรับได้แย่มากๆ"

"ปัญหาของพวกเขาในตำแหน่งนั้นก็คือพวกเขาไม่มีใครที่จะเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้แบบจริงจังเลย ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เป็นอย่างนั้นก็เพราะก่อนหน้านี้เขาเล่นได้ดีมากๆ มันทำให้คุณต้องคิดหนักว่า -ควรจะซื้อใครดี ?- คือคุณต้องจ่ายเงินมากแค่ไหนสำหรับการซื้อนักเตะที่จะไม่ได้ลงเล่นแบบทุกสัปดาห์กัน ?"

"อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าตอนนี้มันถึงจุดที่ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องหาซื้อแบ็กขวาแล้ว แน่นอนมันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เองที่จะดูว่าแบ็กขวาคนนั้นเก่งแค่ไหนและจะมีราคาเท่าไหร่ แต่เขา (อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์) จำเป็นต้องมีคู่แข่งแบบจริงจังได้แล้ว เขาลงเล่นในระดับสูงอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ได้พักเลยมาทุกฤดูกาล"

"เขาได้แชมป์มาครบทุกรายการ, เขาเล่นได้ยอดเยี่ยม และทำได้ทุกอย่างเท่าที่ผมพอจะฝันถึงได้ ผมภูมิใจในตัวเขามากๆ เขาเป็นเด็กหนุ่มจากท้องถิ่นที่ไต่เต้าขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ แต่เขาจำเป็นต้องมีคนคอยช่วย หลังจบฤดูกาลนี้แล้วน่ะเขาต้องคิดให้หนักว่าจุดยืนของเขาในตำแหน่งแบ็กขวามันเป็นยังไง"

มาร์เซล แบรนด์ส ผอ. ฟุตบอล พีเอสวี ระบุ ส่วนตัวแล้วมองว่า ราฟินญ่า เป็นนักเตะที่เก่งกว่า อันโตนี่ แถมยังมีค่าตัวถูกกว่าตั้งเยอะ หลังจากเขาคิดว่า "ปีศาจแดง" จ่ายแพงเกินความเป็นจริงในดีลของ อันโตนี่ โดยบอกด้วยว่าทุกคนรู้ดีว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายเงินเยอะเกินควรในดีลนี้

มาร์เซล แบรนด์ส ผู้อำนวยการฟุตบอลของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น สโมสรในศึก เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ กล่าวว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่ายเงินแพงเกินเหตุสำหรับการดึง อันโตนี่ ไปร่วมทัพ โดยบอกว่าขนาด ราฟินญ่า ที่ค่าตัวถูกกว่าเยอะยังเก่งกว่า อันโตนี่ ด้วยซ้ำ

ในช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมทุ่มเงินถึง 85 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,570 ล้านบาท) เพื่อเอา อันโตนี่ มาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งถึงแม้แข้งชาวบราซิเลี่ยนจะทำผลงานได้ดีในบางนัดแต่หลายคนก็มองว่าโดยรวมแล้วเขายังเล่นได้ไม่คู่ควรกับค่าตัวระดับดังกล่าว

แบรนด์ส เผยว่า "ถ้าคุณเปรียบเทียบกับการย้ายทีมที่มันดูสมเหตุสมผลแล้วน่ะ มันก็มีกรณีของ กาเบรียล เชซุส ที่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปอยู่กับ อาร์เซน่อล (ค่าตัว 45 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,890 ล้านบาท) เป็นตัวอย่าง ค่าตัวที่มันสมเหตุสมผลน่ะอยู่ในระดับนั้น นั่นคือค่าตัวตามปกติที่ควรจะเป็น"

"ผมคิดว่าทุกคนในโลกฟุตบอลต่างก็รู้ดีว่ากรณีของ อันโตนี่ มันบ้าบอมากๆ ที่จริงผมคิดว่า ราฟินญ่า เป็นนักเตะที่เก่งกว่า อันโตนี่ ด้วยซ้ำ แต่เขากลับมีค่าตัวน้อยกว่าเยอะ (ราฟินญ่า ย้ายจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,310 ล้านบาท) แน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับเรื่องการเงิน (ของแต่ละสโมสร) แต่อีกมุมหนึ่งน่ะคุณก็ต้องมีความสมเหตุสมผลด้วย"

ดาบิด เด เคอา ระบุ กาเซมีโร่ แค่โชคร้ายนิดหน่อยในจังหวะที่โดนใบแดงในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน แต่ชมบรรดาเพื่อนร่วมทีมที่แสดงให้เห็นถึงสปิริตอันสุดยอดจนเก็บ 1 แต้มได้

ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความเห็นว่า กาเซมีโร่ โชคร้ายที่โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ต้นสังกัดของเขาเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา

ก่อนลงเล่นเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีภาษีดีกว่าเพราะนอกจากได้เล่นในบ้านแล้วคู่แข่งยังเป็นทีมในอันดับสุดท้ายของตารางคะแนนด้วย แต่เจ้าถิ่นมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนในนาทีที่ 34 จากจังหวะที่กรรมการแจกใบแดงให้ กาเซมีโร่ เพราะมองว่าอีกฝ่ายเข้าสกัดแบบรุนแรงใส่ การ์ลอส อัลการาซ

เด เคอา เผยว่า "ก่อนลงเล่นเกมนี้เราอยากจะเก็บ 3 แต้มให้ได้ แต่เกมมันก็เปลี่ยนไปในตอนที่ กาเซมีโร่ โดนไล่ออก มันเป็นเกมที่ยากมากๆ แต่ผมคิดว่าทีมของเราเล่นกันได้ดี เราพยายามที่จะเล่นเกมรับกันและมีโอกาสดีที่จะทำให้ตัวเองชนะในบางจังหวะด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้วเราก็ต้องยอมรับ 1 คะแนนนี้ ทีมแสดงให้เห็นถึงสปิริตที่ยอดเยี่ยม เราสู้จนถึงท้ายที่สุด วันนี้เรามีโอกาสที่จะทั้งแพ้หรือชนะ แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงสปิริตที่ดี"

"จังหวะเข้าสกัดของเขามันเป็นการเข้าสกัดแบบปกติ เขาโดนบอลด้วยซ้ำ แต่ขาของเขามันลอยสูงนิดหน่อยแล้วก็ไปโดนนักเตะของ เซาธ์แฮมป์ตัน พูดกันตามตรงเลยนะ ผมคิดว่าเขาโชคร้ายนิดๆ จากนั้นเราก็เล่นกันได้ยากหน่อยๆ เราต้องเล่นโดยที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเป็นเวลา 70 นาที แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงสปิริตที่ดีและพยายามกันอย่างเต็มที่จนถึงท้ายที่สุด"

"การอดใช้งาน กาเซมีโร่ 4 นัดถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากๆ มันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงสุดๆ แต่เราก็มีขุมกำลังขนาดใหญ่ ทุกคนพร้อมที่จะเล่นให้ทีม บรรดานักเตะที่เป็นตัวสำรองต่างก็ทำผลงานได้วิเศษ ทุกคนพร้อมที่จะลงเล่น นักเตะที่สมควรได้เล่นในตำแหน่งนั้นน่ะจะทำผลงานได้ดีแน่นอน แต่ก็แน่นอนว่ามันเป็นความเสียหายครั้งใหญ่สำหรับเรา (ที่ กาเซมีโร่ โดนแบน 4 นัด)"

เดอะ มิเรอร์ ประโคมข่าว แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมเดินหน้าล่าตัว แฮร์รี่ เคน กองหน้าแข้งทองของ สเปอร์ส ในซัมเมอร์นี้โดยยินดีจ่ายหนักให้กับ ไก่เดือยทอง ด้วยเม็ดเงินที่แพงกว่าค่าตัวของ แจ็ค กรีลิช

สื่ออิงลิชเจ้าดังกล่าวรายงานเมื่อ 11 มี.ค.ว่า เอริค เทน ฮาก กุนซือ ผีแดง มุ่งมั่นที่จะคว้า เคน มาร่วมทีมในซีซั่นหน้าให้ได้ และมั่นใจอยู่ลึกๆว่าสตาร์ทีมชาติ อังกฤษ หวังย้ายสังกัดเช่นกันเพื่อโอกาสประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ก่อนรีไทร์ แต่ทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตระหนักดีว่าทีมดังแห่งกรุงลอนดอนไม่มีทางขายกัปตันทีมในราคาที่ย่อยเยาแน่

กระนั้นก็ดี ด้วยเหตุที่ เคน มีสัญญากับ สเปอร์ส จนถึงปี 2024 และส่อแววไม่คิดขยายสัญญาเพิ่มอีกจึงทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมทาบซื้อเขาในราคาที่สูงกว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,223 ล้านบาท) อันจะเป็นการทำลายสถิตินักเตะอิงลิชค่าตัวแพงที่สุดของ กรีลิช ซึ่งถูก แมนฯ ซิตี้ ดึงตัวมาจาก แอสตัน วิลล่า

นอกจาก ปีศาจแดง แล้ว แมนฯ ซิตี้ และ บาเยิร์น มิวนิค ตกเป็นข่าวให้ความสนใจในตัวหัวหอก ไก่เดือยทอง เช่นกัน แต่เป็นที่เชื่อว่าเขามีสิทธิ์เดินเข้าสู่ โรงละครแห่งความฝัน มากที่สุดซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับไปมีลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ตามเดิมอีกครั้ง

แอนดี้ โคล ตอบโต้คนที่วิจารณ์ เออร์ลิง ฮาลันด์ โดยบอกว่าตนไม่เข้าใจว่าคนเหล่านั้นคาดหวังอะไรทั้งที่ ฮาลันด์ ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ

แอนดี้ โคล อดีตกองหน้าคนดัง สวนกลับคนที่วิจารณ์ เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากบางคนบอกว่านี่เป็นการย้ายทีมที่ผิดพลาด

หลังย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้วนั้น ฮาลันด์ ก็ทำประตุได้เป็นกอบเป็นกำจนยิงให้ แมนฯ ซิตี้ ไปแล้วถึง 33 ประตูจากการลงเล่น 34 นัดในทุกรายการ อย่างไรก็ตาม ผลงานโดยรวมของ แมนฯ ซิตี้ กลับไม่ดีเหมือนเก่า ซึ่งมันก็ทำให้คนตั้งประเด็นกันว่าสไตล์การเล่นของแข้งวัย 22 ปีมันไม่เข้ากับระบบที่ผ่านๆ มาของ แมนฯ ซิตี้

โคล กล่าวว่า "หลายคนบอกว่าเขาไม่ควรจะเซ็นสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ เพราะเขาไม่เข้ากับระบบของที่นั่น"

"คือถ้าเกิดถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์แล้วผมยิงได้ 27 ลูก แต่ทุกคนเอาแต่บอกว่าผมตัดสินใจพลาดเรื่องการย้ายทีมแล้วเนี่ย ผมก็อยากรู้เหลือเกินว่าอะไรที่ถือเป็นการย้ายทีมที่ถูกต้องกัน ? คุณยิงได้ 27 ลูกตอนจบเดือนกุมภาพันธ์ แล้วมีโอกาสที่จะยิงได้แตะหลัก 40 ลูกอีกต่างหาก ผมไม่มั่นใจเลยว่าทุกคนคาดหวังอะไรจากเขา"

พอล สโคลส์ อดีตยอดมิดฟิลด์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุ จุดบอดที่ทำให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส อาจจะไม่เหมาะกับการเป็นกัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด คือการที่เขาเจ้าอารมณ์เกินเหตุ โดยบอกว่าในเกมสำคัญๆ นั้นคนเป็นกัปตันทีมควรจะมีความเยือกเย็น, มีอิทธิพลที่ดีและมีความเป็นผู้นำในระดับที่เหมาะสม

พอล สโคลส์ ตำนานกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความเห็นว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส อาจจะไม่เหมาะกับการเป็นกัปตันทีมของ "ปีศาจแดง" เพราะเขาเป็นนักเตะเจ้าอารมณ์เกินไป

ที่จริงแล้ว แฮร์รี่ แม็กไกวร์ คือกัปตันทีมลำดับแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในชุดนี้ แต่ด้วยความที่เขาไม่ได้ลงเล่นทำให้ บรูโน่ มักจะได้สวมปลอกแขนเพราะเขามีตำแหน่งเป็นรองกัปตันทีม อย่างไรก็ตาม ในเกมที่แพ้ ลิเวอร์พูล 0-7 นั้น หลายคนมองว่า บรูโน่ แสดงพฤติกรรมหลายอย่างที่ไม่เหมาะกับการเป็นกัปตันทีม อย่างเช่น การชอบเหวี่ยงแขนเมื่อเพื่อนเล่นได้แย่ เป็นต้น จนทำให้เกิดการตั้งประเด็นว่าเขาสมควรได้เป็นกัปตันทีมเต็มตัวหรือไม่

สโคลส์ กล่าวว่า "กัปตันของคุณต้องมีอิทธิพลที่ดี, มีความเป็นผู้นำและมีบุคลิกที่เยือกเย็น ส่วนตัวแล้วผมคงจะรู้สึกเป็นกังวลถ้าหาก ยูไนเต็ด มีสภาพลุ้นแชมป์ในช่วงเดือนมีนาคม, เมษายน (โดยที่ยังมีกัปตันทีมที่โดนอารมณ์ครอบงำได้ง่ายแบบ บรูโน่)"

"ผมไม่คิดว่าการมีเขาเป็นกัปตันทีมของคุณมันเป็นตัวเลือกในฝัน ที่จริงถ้าว่ากันตามตรงแล้วตอนนี้เขาก็เป็นเพียงรองกัปตันนะ ส่วนตอนนี้มันก็แค่ แม็กไกวร์ ไม่ได้ลงเล่นเท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องเดินไปข้างหน้า, ลงเล่นในเกมใหญ่ๆ, ไล่ล่าแชมป์, ลงเล่นเกมแบบนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้ว การมีกัปตันทีมที่เจ้าอารมณ์น้อยกว่านี้อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า"