ส.บอลไทยฯ ผนึกกำลัง บริษัท โปเกมอน คอมพานี ผู้ถือลิขสิทธิ์ "โปเกมอน" และตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์"พิกาชู"มาร่วมกิจกรรม รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการเชิญชวนให้น้องๆได้เข้ามามีส่วนร่วมกับฟุตบอล



เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ก.ย.65 ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงานแถลงข่าวการลงนามความร่วมมือระหว่างสมาคมฯ และ บริษัท โปเกมอน คอมพานี ผู้ถือลิขสิทธิ์ "โปเกมอน" และตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์"พิกาชู" ที่เป็นที่นิยมทั้งการ์ตูน เกมส์ การ์ด และของเล่นจากประเทศญี่ปุ่น โดยทางสมาคมฯจะนำคาแรคเตอร์ "พิกาชู" จากเรื่องโปเกมอน มาร่วมกิจกรรมและการแข่งขันที่เกี่ยวกับฟุตบอลเด็ก ทั้งชาย-หญิง เพื่อให้มีสีสันเหมาะสมกับช่วงวัย ให้เยาวชนได้ร่วมสนุกสนานกับกิจกรรมจากโปเกมอนอีกด้วย

ทาง "บิ๊กโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ เผยว่า "สมาคมฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับทางบริษัท โปเกมอน คอมพานี ในการนำคาแรคเตอร์ที่เป็นมิตร ทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบมาแล้วทั่วโลก มาร่วมกิจกรรม รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการเชิญชวนให้น้องๆได้เข้ามามีส่วนร่วมกับฟุตบอล เพราะการเล่นกีฬา ไม่ว่าประเภทใด หรือระดับไหน ก็เป็นการสร้างทักษะการเรียนรู้ สามารถต่อยอดไปได้อีกมากมาย โดยสมาคมฯ และโปเกมอน ก็จะสอดแทรกแนวคิด ข้อมูลดีๆ เกร็ดความรู้ที่เหมาะกับช่วงวัยของผู้เล่น ผ่านคาแรคเตอร์ที่มีความเป็นมิตรกับเด็กๆ ก็จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ตามที่เราได้เห็นความร่วมมือแบบนี้ กับองค์กรกีฬาระดับโลกมาแล้ว"

ด้าน ซูซูมุ ฟุกุนะกะ ตัวแทนจาก บริษัท โปเกมอน คอมพานี กล่าวว่า "งานในวันนี้รู้สึกยินดีและดีใจอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับทางสมาคมฟุตบอลไทยฯสำหรับงานแถลงข่าวในวันนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่ฟุตบอลเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกีฬาอะไร ก็เป็นการสร้างร่างกายและจิตใจที่ดี ต่อเด็กๆ"

"การที่ได้ร่วมมือกันในครั้งนี้หวังว่า เด็กๆจะรู้จักฟุตบอลมากขึ้น ได้ออกมาทำกิจกรรมข้างนอกมากขึ้น ผมมีความคาดหวังที่จะให้เด็กได้รู้จักกราสรูทเพิ่มขึ้นและหวังว่าจะมีนักฟุตบอลอาชีพเกิดขึ้น จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นความร่วมมือกับสมาคมฟุตบอลไทยฯ และหวังไปถึงฟุตบอลโลก หลังจากนี้เราจะสร้างอะไรหลายๆอย่างอีกด้วยกัน"

สำหรับ บริษัท โปเกมอน คอมพานี ก่อนหน้านี้ก็ได้ลงนามความร่วมมือกับ สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA), เจลีก รวมถึง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ในการสร้างแรงบันดาลใจ​ พัฒนาเยาวชนโดยเฉพาะเด็กในระดับรากหญ้า ให้มีความสนใจเกี่ยวกับฟุตบอลมากขึ้น ผ่านการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็ก อย่างฟุตบอล คลินิค, กิจกรรม กราสรูต หรือ ฟุตบอลรากหญ้า รวมถึงการแข่งขันฟุตบอล เฟสติวัล สำหรับเด็กที่อายุไม่เกิน 12 ปี เป็นต้น