บัวขาว คัมแบ๊กราชดำเนินในรอบ18ปี ปะทะ โคตะ เดือด 19 ส.ค.นี้

[ตำนานฟุตบอลโลก]

ความเคลื่อนไหวศึก "เลเจนต์ ออฟ ราชดำเนิน" ที่เวทีมวยราชดำเนิน ในวันที่ 19 ส.ค.65 โดยคู่เอก เป็นการกรับมาขึ้นชกบนเวทีมวยราชดำเนินอีกครั้งของ บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักมวยคนดังชาวไทย ซึ่งจะชกกับ โคตะ มิอุระ นักชกหน้ามนต์ วัย 20 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของ "คิงคาซู" คาซึโยชิ มิอุระ นักเตะระดับตำนานของญี่ปุ่น ซึ่งจะยกกันในประเภทคิกบ็อกซิ่ง

โดยเมื่อวันที่ 16 ส.ค.65 ได้มีงานแถลงความพร้อมอย่างเป็นทางการหลัง โคตะ มิอุระ เดินทางถึงประเทศไทย โดยมี ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นประธานในงาน

บัวขาว บัญชาเมฆ กล่าวว่า เป็นการกลับมาเยือนเวทีแห่งนี้อีกครั้ง ในรอบ 18 ปี ซึ่งไม่คิดมาก่อนว่าจะได้กลับมาในที่ๆเป็นตำนาน และเป็นจุดเริ่มต้นของบัวขาว นับตั้งแต่เริ่มออกเดินทางไปชุกในเวทีต่างประเทศ นอกจากนี้การพบกับ โคตะ มิอุระ บอกตรงๆว่าเป็นไฟต์ที่หนักใจมากที่สุด เนื่องจากเจ้าตัวก้เป้นนักชกที่มีฝีมือ เป้นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง อย่างไรก็ตามในการชกก็จะโชว์การชกในแบบของบัวขาว แม้ว่าจะเป้นการชกโช แต่จะจัดเต็มแน่นอน

เผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่างตำนานมวยไทย "บัวขาว บัญชาเมฆ" กับนักชกหน้าหยกดาวรุ่งแห่งยุคจากแดนอาทิตย์อุทัย "โคตะ มิอุระ" พร้อมระเบิดกำปั้นในไฟต์พิเศษบนเวทีราชดำเนินค่ำคืนวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคมนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและสมาคม องค์กรต่างๆ จนเกิดอีเวนต์ระดับโลกนี้ได้ เผยกระแสดีทั้งในและต่างประเทศ ตอบโจทย์การยกระดับเวทีมวยราชดำเนินให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะสปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนต์ เซ็นเตอร์ที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมมุ่งมั่นสร้างเวทีมวยราชดำเนินและมวยไทยให้เป็นหนึ่งในเดสทิเนชั่นต้องห้ามพลาดของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งเป็น Soft Power ที่สร้างการรับรู้และรายได้ให้กับประเทศ

อีกหน่วยงานที่มีส่วนสำคัญต่อการจัดงานครั้งนี้คือสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย (KickBoxing Association of Thailand) โดยพลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าวถึงรายการ KAT Presents Legend of Rajadamnern ว่าเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย หรือ Kickboxing Association of Thailand และ GSV โดยการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ตามพันธกิจในการส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนากีฬา เป็นเลิศ กีฬาอาชีพ และกีฬามวย เพื่อสรรหาและพัฒนานักกีฬาและบุคลากรกีฬาให้ประสบความสำเร็จในระดับชาติและนานาชาติ อีกทั้งการสนับสนุนการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาให้มีมาตรฐาน เพื่อสร้างโอกาส และประสบการณ์ให้กับนักกีฬาและบุคลากรกีฬา รวมทั้งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

อนึ่งการชก Kickboxing Exhibition ในครั้งนี้เป็นกิจกรรมสาธิตให้เห็นความแตกต่างระหว่างมวยไทยกับคิกบ็อกซิ่ง

อีกหนึ่งพันธมิตรของเวทีมวยราชดำเนินคือเวิร์คพอยท์ทีวี ช่อง 23 ผู้ถ่ายทอดความสนุกจากเวทีมวยราชดำเนินสู่สายตาคอมวยทั่วประเทศ ดร.วิชนี ศรีสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานตลาด บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เน้นย้ำว่าไฟต์นี้นับเป็นหนึ่งในไฟต์ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดแห่งปี ทางทีมงานได้เตรียมพร้อมการถ่ายทอดให้ผู้ชมทางบ้านได้สัมผัสกับความตื่นเต้นเร้าใจเหมือนกับมาชมที่สนามให้มากที่สุดและมั่นใจว่าในค่ำคืนดังกล่าว จะหยุดสายตาผู้ชมทั้งที่เป็นแฟนมวยและผู้ชื่นชอบกีฬาแม้กระทั่งเรียกแรงเชียร์จากแฟนคลับทั้งของบัวขาว และโคตะ ได้ไม่น้อย เป็นการตอกย้ำความเป็นช่องวาไรตี้โชว์ที่ถูกอกถูกใจคนไทยมายาวนาน สำหรับผู้ชมทั่วประเทศสามารถติดตามชมมวยคู่นี้และคู่อื่นๆ ในรายการ RWS ราชดำเนิน เวิล์ด ซีรีส์ ผ่านการถ่ายทอดสดผ่านเวิร์คพอยท์ ช่อง 23 เวลา 21.15 น.ของวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคมนี้

นายเธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ซีอีโอ บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด หรือ GSV ผู้นำทีมพัฒนาเวทีมวยราชดำเนินให้เต็มไปด้วยแสงสีเสียงแบบเดียวกับสนามกีฬาระดับโลกและเป็นผู้จัดการแข่งขันชกมวยไทยรายการ RWS ราชดำเนิน เวิล์ด ซีรีส์ กล่าวขอบคุณการสนับสนุนจากภาครัฐ สมาคมและพันธมิตร ที่ช่วยผลักดันให้การชกครั้งนี้คือ KAT presents legend of Rajadamnern เป็นจริงขึ้นมาได้ หากปราศจากการช่วยเหลือจากทุกท่านที่ปรารถนาดีต่อวงการมวยไทยแล้ว การแข่งขันนี้ก็เกิดได้ยาก ตนมีความเชื่อมั่นมากว่าไฟต์นี้ซึ่งเป็นการชกแบบ Exhibition Fight ระหว่างบัวขาวกับโคตะ จะสร้างกระแสความสนใจไปทั่วทุกมุมโลก เป็นชิ้นส่วนสำคัญชิ้นหนึ่งในภาพใหญ่ที่จะยกระดับมวยไทยให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น รวมทั้งทำให้เวทีมวยราชดำเนิน เป็นเดสทิเนชั่น (Destination) สำคัญที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในประเทศ

"สำหรับแมตช์การชกครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นยกระดับเวทีราชดำเนินให้เป็นสปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนต์ เซ็นเตอร์ระดับโลก เป็นสนามการต่อสู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองไทยด้วยศิลปะมวยไทยที่ได้รับการยกย่องจากวงการคอมแบตสปอร์ตระดับนานาชาติว่าเป็นกีฬาการต่อสู้แบบยืนที่ดีที่สุดในโลก ดังนั้น การจัดแมตช์พิเศษครั้งนี้ที่จับบัวขาวผู้เปิดประตูมวยไทยสู่เวทีโลกจนสร้างชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ เรียกได้ว่าเป็นตำนานของนักสู้ผู้นำศิลปะมวยไทยไปประกาศให้คนทั้งโลกได้ทึ่งและชื่นชม มาพบกับโคตะ มิอุระ สุดยอดนักสู้รุ่นน้องที่โด่งดังในวงการการต่อสู้แบบผสมผสานหรือ Mixed Martial Art (MMA) เป็นที่จับตาในฐานะนักมวยแห่งทศวรรษ และนี่นับเป็นครั้งแรกที่โคตะจะมาชกในรูปแบบ Kickboxing อีกด้วย" นายเธียรชัยกล่าว

นอกจากนี้ แมตช์ในวันที่ 19 สิงหาคม นับเป็นการหวนคืนสู่เวทีราชดำเนินครั้งแรกในรอบ 18 ปีของบัวขาว บัญชาเมฆ อีกด้วย